บทความที่ได้รับความนิยม

Facebook !! ปล่อย Design ใหม่?


             Facebook กำลังเริ่มปล่อยคุณสมบัติการทำงานใหม่ที่ยังไม่ได้เคยมีการเปิดตัว หรือแจ้งให้ผู้ใช้ได้ทราบอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด นั่นก็คือ ดีไซน์ใหม่ของ Timeline ที่มีลักษณะเป็นแบบ"คอลัมน์เดียว" โดยผู้ใช้บางรายในจะได้มีโอกาสใช้คุณสมบัติการทำงานใหม่นี้แล้ว ซึ่งแหล่งข่าวอ้างว่า มันเริ่มมีการเปลียนแปลงเมื่อวานนี้ หนึ่งในแหล่งข่าวนามว่า Owen Williams ในนิวซีแลนด์ยังได้จับภาพหน้าจอ Facebook ที่ดีไซน์ให้ข้อความที่โพสต์บน Timeline มีคอลัมน์เดียว มาให้ได้ชมเป็นขวัญตากันด้วย ซึ่งดีไซน์ที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดคือ การขยายคอลัมน์ในการนำเสนอ status ที่อยู่ด้านซ้ายให้ใหญ่ขึ้นแทนที่จากเดิมจะแบ่งหน้าจอเป็นสองคอลัมน์เท่ากัน พร้อมทั้งเพิ่มแท็บเมนูตรงกลาง ซึ่งประกอบด้วย Timeline, About, Friends, Photos และ More

              นอกจากนี้จะเห็นว่า คอลัมน์ด้านขวาจะเล็กลง (แหงล่ะ ก็โดนเบียดจากคอลัมน์ทางซ้ายที่ใหญ่ขึ้น) และดูง่ายขึ้น โดย Friends box ตอนนี้ จะแสดงภาพเพื่อนๆ เป็นเมตริกซ์ 3x3 แทนที่จะเป็น 2x4 เหมือนแบบเดิม สำหรับคอลัมน์ทางขวาของดีไซน์ใหม่ที่ตอนนี้มันจะไม่ถูกใช้ในการแสดง status แล้ว แต่ก็จะมีการแสดงผลในส่วนของรายชื่อเพื่อน (list of friends) กิจกรรมล่าสุด (recent activity) และอัพเดทอื่นๆ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีรายงานภาพความเปลี่ยนแปลงดีไซน์ของ Timeline แหล่งข่าวได้พยายามติดต่อ Facebook เพื่อสอบถามในประเด็นนี้ แต่กลับได้รับคำตอบว่า ทางบริษัทยังไม่มีข้อมูลใดๆ จะแชร์ใหทราบ อย่างไรก็ตาม ล่าสุด Facebook ได้ร่อนบัตรเชิญสื่อเข้าร่วมงานในสัปดาห์หน้า (วันที่ 15 มกราคม 2013) โดยไม่ได้บอกว่าจะเป็นการโชว์อะไรใหม่? ซึ่งในข่วงเวลาที่ใกล้กันนี้ของปีที่แล้ว Facebook ก็ได้มีการร่อนบัตรเชิญสื่อเหมือนกัน แต่ครั้งนั้นเป็นการประกาศความร่วมมือระหว่าง Facebook กับ Skype ในการให้บริการวิดีโอแชท

Camera :: Fujiflim ประกาศเปิดตัว Fujifilm X100s และ Fujifilm X20

                Fujifilm ประกาศเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ โดยกล้องที่น่าสนใจสำหรับปีนี้ได้แก่ Fujifilm X100s ซึ่งเป็นรุ่นที่พัฒนามาจาก X100 ตัวเดิม และ Fujifilm X20 พัฒนามาจากรุ่น X10 ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ได้รับการโปรโมทว่าเป็นกล้องที่มีระบบออโต้โฟกัสเร็วที่สุดในโลก สำหรับจุดเด่นของ Fujifilm X100s อยู่ที่ระบบโฟกัสและเซ็นเซอร์ที่ให้คุณภาพไฟล์ในระดับยอดเยี่ยม ส่วน Fujifilm X20 ก็ได้รับการพัฒนาเรื่องของวิวไฟน์เดอร์ เลนส์และระบบโฟกัสเช่นกัน


           สำหรับ Fujifilm X100s มีการเพิ่มฟีเจอร์เจ๋งๆที่เรียกว่า Digital Split Image ที่เหล่ากล้องฟิล์มมือหมุนน่าจะชื่นชอบเพราะเป็นการนำเอาระบบโฟกัสแบบแมนนวลที่แบ่งภาพเป็นภาพเหลื่อมมาใช้ในการโฟกัส ใครที่สนใจกล้องของ Fujifilm อดใจรอกันอีกนิดคงได้สัมผัสกัน

Camera :: Canon Powershot N คอมแพกต์สายพันธุ์ใหม่



Canon Powershot N กล้องดิจิตอลคอมแพกต์รูปแบบใหม่ที่จะช่วยสร้างสรรค์การถ่ายภาพของคุณให้สนุกมาขึ้น กล้อง Powershot N มาพร้อมกับคุณสมบัติโดดเด่นเช่นหน้าจอแบบสัมผัสบิดพับได้ พร้อมดีไซน์ตัวกล้องแบบน่ารักเก๋ไก๋ แถมยังมีระบบซูมเลนส์แบบใช้มือหมุนวงแหวน แถมปุ่มชัตเตอร์ยังไปอยู่ที่บริเวณวงแหวนตัวเลนส์อีกด้วย




กล้อง Canon Powershot N ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองเทรนด์การแชร์ภาพถ่ายในสังคมออนไลน์ เพราะตัวกล้องมีฟังก์ชั่นในการแต่งภาพและมี Wi-Fi ในตัว ด้วยตัวเลนส์เทียบเท่า 28-224mm (8X) และเซ็นเซอร์ความละเอียด 12.1 ล้านพิกเซล เพียงพอต่อการถ่ายภาพทั่วๆไป สามารถถ่ายภาพวีดีโอแบบ Full HD และหน้าจอขนาด 2.8 นิ้วที่สามารถควบคุมด้วยระบบสัมผัส ทั้งยังสะดวกในการถ่ายภาพมุมแปลกๆด้วยการบิดพับหน้าจอ และยังมี GPSในตัว








Mobile :: iPhone 6 กับ Design สุดเจ๋ง !!

           Design เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนความคิด (ที่สำคัญกว่าความรู้) ที่ไม่ว่าใครก็สามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นมาได้ เช่นกับจินตนการของนักออกแบบรายหนึ่งที่ได้จับเอา iPod Nano รุ่นล่าสุดกับ Nokia Lumia มาคลุกเคล้าเข้าด้วยกันจนกลายเป็นไอเดียในการออกแบบ "iPhone 6" ถึงแม้มันจะเป็นแค่จินตนาการ แต่ก็ต้องขอชมว่า ออกแบบมาได้น่าใช้มากๆ คร้าบแนวคิดของอุปกรณ์รุ่นใหม่จาก Apple ออกแบบโดยกราฟฟิกดีไซน์เนอร์ นามว่า "Federico Kikkares"จาก CiccaresDesign ได้ผนวกเอาคุณสมบัติจาก iPod Nano รุ่นล่าสุด กับดีไซน์ของ Nokia Lumia ผสมผสานกันจนกลายเป็น iPhone 6 จากการสังเกตเบื้องต้นจะเห็นได้ว่าตัวเครื่องจะมีลักษณะที่น่าจะเป็นอะลูมิเนียม เฉดสีเทามันวาว ขนาดของตัวเครื่องละม้ายคล้ายกับ Nokia Lumia, มีลำโพงอยู่ล่างสุดของเครื่อง คั่นกลางด้วยพอร์ต Lightning แถมยังไม่มีปุ่ม home อีกตังหาก
ที่สำคัญดีไซน์ใหม่ของ iPhone 6 ที่ไม่เฉพาะตัวเครื่องเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงระบบปฏิบัติการใหม่ที่ Federico Kikkares เชื่อว่า Apple จะจับเอา "iOS" บน iPhone มารวมร่างกับ "OS X" นอกจากนี้การเล่นข่าวของสื่อต่างประเทศยังรายงานเพิ่มว่า iPhone 6 จะมาพร้อมนวัตกรรมใหม่ของหน้าจอที่ทนทาน, ความละเอียดสูง, มีความบางเบาอีกด้วย

     ดูแล้วเป็นไอเดียที่สุดยอดแท้ แต่สำหรับท่านที่คาดหวังกับผลิตภัณฑ์ตัวใหม่นี้คงต้องฝันกันไปก่อน เพราะในความเป็นจริงนั้นไม่มีใครรู้ได้ว่า iPhone 6 หรือจะเป็น iPhone 5S หรือ จะ New iPhone จะออกมาในรูปแบบใด นอกจากแต่ว่าคุณจะเป็นหนึ่งในทีมออกแบบของ Apple  :))

เพิ่มสัญญาณ Wi-Fi ด้วย 5 วิธีง่ายๆ

 เพิ่มสัญญาณ Wi-Fi ด้วย 5 วิธีง่ายๆ    
     ไวไฟ (Wi-Fi) ในบ้านไม่เอื้ออำนวยให้การอ่านข่าวบนไอแพด (iPad) ยามเช้าไหลลื่นหมือนกาแฟที่กำลังดื่มอย่างคล่องคอในขณะนั้น บทความนี้ขอแนะนำวิธีง่ายๆ ในการที่จะปรับแต่งการใช้งานให้สัญญาณ Wi-Fi ในบ้านแรงขึ้น เพื่อการท่องเน็ตที่มีความสุขยิ่งขึ้น

สำหรับเทคนิคที่นำมาเล่าสู่กันฟังในบทความนี้จะมีอยู่ 5 วิธีด้วยกัน
1. อัพเดทเทคโนโลยีของอุปกรณ์ที่ใช้  หากเราท์เตอร์ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่างๆ ของคุณ ไม่ได้ล่าสมัยจนเกินไป (ไม่เกิน 3 ปี) ระบบทั้งหมดน่าจะสนับสนุนการเชื่อมต่อด้วยมาตรฐาน Wirelee-N ซึ่งหากตรวจสอบแล้วมันเข้ากันได้ แนะนำให้ตั้งค่าของเราท์เตอร์เป็น N-mode only เพื่อให้ได้ความเร็ว และรัศมีครอบคลุมการใช้งานสูงสุด การคั้งค่าเป็น b/g/n เพื่อให้สนับสนุนการเชื่อมต่ออุปกรณ์รุ่นเก่าทีทำงานช้ากว่า หากพีซีทีใช้มาพร้อมกับการ์ดเชื่อมต่อด้วย Wireless-G แนะนำให้มารุ่นใหม่ที่เป็น Wireless-N มาใส่แทน อย่างไรก็ตาม การซื้อเราท์เตอร์ใหม่ที่ไม่สนับสนุน Wireless-N มีโอกาสที่มันจะไม่สนับสนุนการเข้ารหัสระบบรักษาความปลอดภัยล่าสุดด้วย ก่อนตั้งค่าเป็น Wireless-N แนะนำให้คุณตรวจสอบเว็บไซต์ของผู้ผลิตด้วยว่า เฟิร์มแวร์ของเราท์เตอร์ที่คุณใช้อยู่ได้รับการอัพเกรดให้ใช้ได้แล้ว หรือยัง? ลองตรวจสอบ และทำตามดูนะครับ แล้วคุณจะพบกับประสบการณ์ใหม่ในการท่องเว็บไร้สายภายในบ้านของคุณ


2. หาฮวงจุ้ยที่เราท์เตอร์สามารถให้สัญญาณได้แรงที่สุด เราท์เตอร์ไม่ได้เป็นแก็ดเจ็ตที่สวยหรูดูดี ดังนั้นผู้ใช้ส่วนใหญ่ชอบวางมันหลบๆ ซ่อนๆ ไว้ แต่มันเป็นเรื่องที่ผิดพลาดมากๆ เพราะเราท์เตอร์เป็นอุปกรณ์"ขี้ร้อน"และมันต้องการที่ทีมีอากาศถ่ายเทสะดวก ดังนั้นควรวางมันในที่เปิดโล่ง อย่างเช่น ตรงกลางบ้าน พยายามให้อยู่ห่างจากผนัง และสิ่งกีดขวาง อย่างเช่น ตู้เอกสารที่ทำจากหล็ก ไม่ควรวางเราท์เตอร์ให้เสาสัญญาณชิดติดกำแพง หรือออกไปนอกอาคาร เพราะจทำให้สูญเสียสัญญาณครึ่งหนึ่งที่ส่งออกไป แถมยังอาจจะกลายเป็นการสร้างจุดบอดของสัญญาณภายในบ้านซะด้วยซ้ำ ฮวงจุ้ยที่ดีทีสุดสำหรับการติดตั้งเราท์เตอร์คือ ที่สูงดีกว่าที่ต่ำ โดยเฉพาะบ้านสองชั้น ถ้าจะให้ง่ายหน่อยแนะนำให้คุณวางเราท์เตอร์ไว้เหนือชั้น หรือบนตู้สูง และไม่อยู่ชิดติดสิ่งกีดขวางที่อาจบล็อคสัญญาณได้


3.เปลี่ยนช่องสัญญาณ
 การส่งสัญญาณไวไฟก็จะคล้ายๆ กับการทำงานของสถานีวิทยุ เราท์เตอร์ไร้สายถสามารถส่งสัญญาณไปบนช่องที่แตกต่างกัน ซึ่งหากคุณและเพื่อนบ้านที่ใช้ไวไฟช่องสัญญาณเดียวกัน มันก็จะเกิดการแบ่งกันใช้เป็นธรรมดา ปัญหานี้อาจไม่เกิดขึ้นกับคุณหากเราท์เตอร์ที่ใช้มีคุณสมบัติการเปลี่ยนช่องสัญญาณโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าไม่มี การปรับแต่งเลือกช่องสัญญาณทีมีการรบกวนน้อยสุดจะช่วยให้คุณได้สัญญาณไวไฟที่แรงขึ้น ลองศึกษาคู่มือ หรือค้นหาวิธีเปลี่ยนช่องสัญญาณ (Channel) ทีมีให้เลือก 1 - 11 แชนเนล จากเว็บไซต์ของผู้ผลิตเราท์เตอร์



4. ลดสัญญาณรบกวน นอกจากการอัพเดทเทคโนโลยีทีใช้ ค้นหาฮวงจุ้ยของเราท์เตอร์ที่เหมาะสม เปลี่ยนแชนเนลสัญญาณที่ไม่ไปชนกับใครแล้ว อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มความแรง และระยะในการส่งสัญญาณไวไฟให้กับเราท์เตอร์ของเราก็คือ การลดสัญญาณรบกวนการทำงานจากอุปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้ความถี่ในย่าน 2.4GHz อย่างเช่น โทรศัพท์ไร้สายภายในบ้าน เครื่องส่งสัญญาณเตือนเด็กตื่น และอุปกรณ์ไร้สายต่างๆ ตลอดจนเตาอบไมโครเวฟ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้สามารถส่งคลื่น 2.4GHz ที่แรงมาก จนรบกวนให้สัญญาณ Wi-Fi ของคุณสู้ไม่ได้ แนะนำให้วางเราท์เตอร์ห่างไกลจากอุปกรณ์เหล่านี้จะดีกว่า



5. ดูแลเน็ตเวิร์กให้ปลอดภัย สำหรับวิธีสุดท้ายที่จะช่วยให้สัญญาณไวไฟของคุณไม่ถูกแอบใช้โดยชาวบ้านจนอืดยืดยาดไปหมด เนื่องจากการ Home Wi-Fi จะมีการปล่อยสัญญาณออกไปนอกบ้าน หากคุณไม่ทำการตั้งค่าระบบรักษาความปลอดภัยเอาไว้ อย่างเช่น การเข้ารหัส ซึ่งเราท์เตอร์ใหม่ๆ วันนี้จะได้รับผลกระทบต่อประสิทธิภาพความเร็วน้อยมาก แต่มันย่อมดีกว่า การโดนข้างบ้านแอบบใช้สัญญาณไวไฟของคุณ ท่องเน็ต โหลดบิต ดูยูทูบ ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ แฮคเกอร์สามารถใช้เน็ตเวิร์กที่ไม้ได้รับการดูแลเรื่องความปลอดภัยขโมยข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อได้ ในที่นี้ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ได้ตั้งค่าการเข้ารหัสด้วย WPA2 และใช้พาสเวิร์ดที่แข็งแรง

Asus เปิดตัวกล่อง "Google TV"


ในงาน CES 2013 เอซุส (Asus) เปิดตัวอุปกรณ์กล่องเชื่อมต่อสัญญาณ Google TV ตามที่ได้เคยให้ข่าวไว้ก่อนหน้านี้ โดย Qube จะได้รับการออกแบบให้มีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มาพร้อมกับอินเตอร์เฟซในการเข้าถึงสื่อต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ทั้งรายการสด ออนดีแมนด์ เว็บ และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากตัวบ๊อกซ์แล้วยังมีรีโมทที่ควบคุมด้วยการเคลื่อนไหวตัวมัน หรือ motion control ให้อีกด้วย ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดแอพฯ Mobile Remote ของ Asus จาก Play Store เพื่อเปลี่ยนมือถือ หรือแท็บเล้ตของคุณให้กลายเป็นอุปกรณ์ควบคุม Qube ระบบหน้าจอสัมผัสได้

สำหรับการใช้ Qube ควบคุมการใช้งานผ่านอินเตอร์เฟซ ผู้ใช้จะใช้การเลื่อนดูแต่ละหน้าของ"ลูกบาศก์"ทีหมุนได้ (คล้ายเกมรูบิคบนคอมพิวเตอร์) ซึ่งคุณสามารถเลือกซื้อสื่อที่ต้องการรับชมจากผู้ให้บริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Netflix, Amazon Instant Video ที่มีภาพยนตร์ และรายการทีวีให้ชมมากกว่า 100,000 รายการ และ Google Play รวมถึงการท่องเว็บ และคุณสมบัติอื่นๆ ที่ใช้งานบน Google TV ในส่วนของคุณสมบัติภายในเครื่องจะทำงานด้วยโพรเซสเซอร์ Marvell ARMADA 1500 (แพลตฟอร์มเดียวกับ Google TV รายอื่นๆ) หน่วยความจำ 1GB และสตอเรจ 4GB พร้อม WebStorage อีก 50GB ภายนอกมีพอร์ตเชื่อมต่อ USB ให้ 2 พอร์ต และ HDMI เพื่อเชื่อมต่อกับทีวีโดยตรง ส่วนการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายด้วย Wi-Fi และรีโมทจะควบคุมด้วยบลูทูธ โดยในส่วนของรีโมทที่มาพร้อมคีย์บอร์ด QWERTY (ด้านหลัง)นอกจากจะควบคุมด้วยการเคลื่อนไหวได้แล้ว มันยังสนับสนุนการใช้คำสั่ง Voice Search เพื่อค้นหารายการที่ต้องการชมาได้อีกด้วย สนนราคาของเครื่องโดยประมาณอยู่ที่ 150 เหรียญฯ (ประมาณ 4,500 บาท)


Asus Qube media streamer with Google TV ces 2013




Mobile :: Sony Xperia Z สปีดเหนือระดับ

หลังมีข่าวมาตั้งแต่ปีที่แล้วว่า Sony กำลังเดินหน้าพัฒนามือถือรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพในระดับ high-end ซึ่งไม่เพียงข่าวลือ แต่ยังมีภาพหลุดหลายภาพที่เล็ดลอดออกมาก่อนเปิดตัวจริงๆเสียอีก Sony Xperia Z หรือYUGA เป็นมือถือหน้าจอขนาด 5 นิ้ว มีระบบ HDR ในตัว ความละเอียด1920 x 1080 Full HD ขับเคลื่อนโดย Qualcomm Snapdragon 1.5 GHz S4 Pro Processor, RAM 2GB, รองรับระบบ 4G LTE , กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์ Exmor RS ช่วยการถ่ายรูปและอัดวีดีโอตอนเวลากลางคืนได้ดียิ่งขึ้น ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4.1 (สามารถอัพเกรดเป็น 4.2 ได้ในอนาคต) ที่สำคัญตัวเครื่อง Xperia Z มีเทคโนโลยี Mobile BRAVIA Engine 2 สามารถกันน้ำได้ลึก 1 เมตร นาน 30 นาที แถมกันฝุ่นได้ด้วย


ในงาน CES 2013 นี้ Sony มีกำหนดการที่จะเปิดตัว Xperia Z ในวันที่ 8 มกราคมนี้ แต่กลับมีคนพบตัวเครื่อง Xperia Z ในบูธของงานก่อนจะเปิดตัวเสียอีกไม่รู้ว่าทางทีมงาน Sony ตั้งใจไว้แต่แรกหรือไม่ ซึ่งนี่อาจทำให้ตอนเปิดตัวคงลดความน่าตื่นเต้นลงไปพอสมควร อย่างไรก็ตามเห็นสเปคคร่าวๆไปแล้วก็ต้องยอมรับเลยว่า Xperia Z เป็นมือถือรุ่นท็อปอีกรุ่นที่น่าสอยไม่ใช่น้อย สำหรับการวางจำหน่ายในท้องตลาด คาดว่าน่าจะเป็นราวๆเดือนมีนาคมนี้